ข่าวความเชื่อ/ศรัทธา

ชาวไทย-เขมร แห่ทะลักล้นวัด รอรับแจกเหรียญ “หลวงปู่เฮง” เกจิดังอีสานใต้ พร้อมส่องเลขเด็ดหางประทัดคึกคัก

วันที่ 28 มี.ค.67 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เอ พุทธศิลป์ ผู้จัดสร้างเหรียญวัตถุมงคลรุ่น”เจริญพร 8 รอบ หลวงพ่อเฮง  ปภาโส”   “เอ  พุทธศิลป์”พร้อมทีมงาน ได้ร่วมกันประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ก่อนประกอบพิธีพุทธาภิเษกเหรียญวัตถุมงคลรุ่น”เจริญพร 8 รอบ โดยหลวงปู่เฮง  ปภาโส” ในช่วงบ่าย  ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นพิธีพรามหณ์ ได้มีการจุดประทัดจำนวนหลายนัด ก่อนจะปรากฏเลขหางประทัดคือเลข 317 กับ 56 ทำให้นักเสี่ยงโชคต่างไม่พลาดที่นำเลขเด็ดดังกล่าวไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 เม.ย.67 ที่จะถึงนี้กันตามระเบียบ

จากนั้นในช่วงบ่ายเวลา 13.00 น.หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม เกจิดังอีสานใต้ เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก เหรียญวัตถุมงคลรุ่น”เจริญพร 8 รอบ หลวงพ่อเฮง  ปภาโส”โดยมีหลวงปู่เฮง ปภาโส เป็นประธานนั่งปรกอธิษฐานจิตร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ อีก 15 รูป อย่างเข้มขลังค์ ท่ามกลางประชาชนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ชายแดน ทั้งชาวไทยและกัมพูชา และจากต่างจังหวัดที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับเหรียญวัตถุมงคลรุ่น”เจริญพร 8 รอบ หลวงพ่อเฮง  ปภาโส” เนื้อเหรียญมีหลากหลายแบบให้เช่าบูชา จัดสร้างโดย “เอ พุทธสิลป์” เพื่อสมทบทุนสร้างมลฑลรูปเหมือนหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และบูรณะปฏิสังขรณ์ภายในวัด โดยวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าว ที่จัดสร้างโดย”เอ พุทธศิลป์” ยังได้รับการการันตีพระแท้ตลอดชีพ จากพีเอสจีเอ ออเธนทิเคชั่น บริษัทรับตรวจสอบ ออกบัตรรับรอง การันตีความแท้อย่างเป็นทางการ ในเครือสถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย ACI Certified Institute  อีกด้วย  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการยกระดับการสะสมของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับของคนไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก โดยป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังของประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “ประชาสัมพันธ์ข่าวสารงานบุญ-เอ พุทธศิลป์ ถุงเงิน”

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก”เอ พุทธศิลป์” ยังได้ถวายปัจจัยกับหลวงปู่เฮง ปภาโส จำนวน 3,283,500 บาท อีกด้วย พร้อมได้มีการแจกข้าวสาร จำนวน 3,000 ก.ก.ให้กับประชาชนที่มาร่วมงานคนละ 2 ก.ก. รวมทั้งยังมอบธนบัตรขวัญถุงให้อีกคนละ 100 บาท จำนวนเงินทั้งหมด 200,000 บาท ไม่พอยังแจกเหรียญวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวอีก  จำนวน 2,500 เหรียญอีกด้วย

โดยมีประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชา นับพันคนต่างกรู แห่เข้าไปรอรับเหรียญด้วยความศรัทธาหลวงปู่เฮงเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด ขณะที่เซียนพระได้รอรับซื้อเช่าเหรียญที่แจกให้ประชาชนอยู่ที่ในวัด เพื่อนำไปปล่อยให้เช่าต่อในราคาที่สูงขึ้น ขณะที่ชาวบ้านบางคนก็เก็บเอาไว้เพื่อบูชา และคราวใดที่มีการปลุกเสกเหรียญพระเครื่องต่างๆก็จะมีประชาชนมารอรับแจกจำนวนมากทุกครั้งด้วยความศรัทธา และเป็นที่ต้องการของเซียนพระเป็นอย่างมาก

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ

จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *