ข่าวทั่วไป

รอง ผอ.รร.ดังเมืองช้างโต้กลับ หลังผู้สมัครพรรคก้าวไกล ซัดมีการเรียกเก็บส่วยร้านค้า

กรณีนายเบญจมินทร์ ปันสน อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ พรรคก้าวไกล ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองโรงเรียนเมืองสุรินทร์และได้นำคำร้องเรียนมาโพสต์ เฟสบุ๊คส่วนตัว เบญจมินทร์ ปันสน ระบุว่า รอง ผอ.รร.แห่งหนึ่งในเมืองสุรินทร์ส่อแววใช้เงินของนักเรียนไม่โปร่งใส เด็กหยุดเรียนแต่ขอให้ออกบิล เก็บส่วยร้านค้า ถ้าไม่จ่าย ไม่ซื้อของด้วย

โครงการอาหารกลางวันนักเรียนระดับประถมศึกษาถือเป็นบริการสาธารณะของรัฐที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนมีสวัสดิการด้านการศึกษาและได้รับโภชนาการที่ดี ปัจจุบันโรงเรียนดังกล่าวมีการวางแนวทางการสั่งอาหารกลางวันนักเรียนคือ ใน 1 วัน จะมีอาหารนักเรียน 1 อย่าง + ผลไม้ และสั่งอาหารให้ครูเพิ่ม + 1 อย่าง เท่ากับรวมเป็นอาหาร 2 อย่าง โดยรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้นำค่าอาหารครูไปรวมเข้ากับค่าอาหารนักเรียน และยังมีการเก็บเงินเพิ่มจากบุคลากรครูในโรงเรียนอีกจำนวน 200 บาท/ เดือน/ คน

รอง ผอ. รร. แห่งนี้มียังการสั่งของนอกรายการ เช่น กาแฟ ผงชง กระเช้าผลไม้ ฯลฯ รวมไปถึงเมื่อโรงเรียนมีงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้นำค่าใช้จ่ายไปลงในรายการโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบการใช้งบ เบิกจ่ายเพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาผลประโยชน์ของนักเรียน

นอกจากนี้ในช่วงที่หยุดเรียน นักเรียนไม่ได้มาโรงเรียน แต่กลับมีการขอให้ร้านอาหารออกบิลใบเสร็จให้จำนวน 30,000 บาท/ วัน และรอง ผอ. มีการเรียกรับเงินด้วยวาจาอย่างไม่เป็นทางการจากคู่ค้าร้านอาหาร ร้านแก๊สหุงต้ม ร้านเครื่องเขียน ฯลฯ จำนวน 50,000 บาท/ ภาคเรียน หากไม่จ่ายให้โรงเรียนจะไม่ซื้อสินค้าด้วย

เบญจมินทร์ ปันสน – Benjamin Punson จึงได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานสำคัญไปหารือในรัฐสภาผ่าน ‘กรุณพล เทียนสุวรรณ’ สส. บัญชีรายชื่อและรองโฆษก พรรคก้าวไกล – Move Forward Party เนื่องจากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวควรต้องมีตรวจสอบการใช้งบอย่างโปร่งใส ป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลย จะทำให้โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงถูกทลาย ไม่ใช่เพราะสถาบันการศึกษา แต่เพราะคณะผู้บริหารขาดความโปร่งใสและไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของนักเรียนเป็นสำคัญที่สุดได้

ล่าสุด-วันที่ 8 กันยายน 2566 ที่โรงเรียนเมืองสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ คณะผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรการทางการศึกษาพร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษา ได้แถลงชี้แจ้งกรณีดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ โดย นายชีวิน ทองศรี ผอ.รร.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียน เดิมทีเรามีเจ้าเดียวตอนหลังตรวจสอบภายในได้เข้าตรวจสอบและให้เราปฏิบัติตาม อย่างเช่นร้านแก็สเราก็เอาร้านแก็ส ร้านผักเราก็เอาผัก คือแยกซื้อโดยตรงจากร้านแต่ละร้านเลย ซึ่งเดิมทีจะมีแค่เจ้าเดียวที่มาจัดการซื้อให้ และหลังจากมีการร้องเรียนทางหน่วยงานก็ได้ลงสืบข้อเท็จจริงแล้ว ข้อมูลเราก็ได้ให้ไปหมดแล้ว ยืนยันว่าเราทำถูกต้องทุกอย่าง ส่วนกรณีที่ร้องว่าค่าอาหารครูไปรวมเข้ากับค่าอาหารนักเรียน และยังมีการเก็บเงินเพิ่มจากบุคลากรครูในโรงเรียนอีกจำนวน 200 บาท/ เดือน/ คน นั้น คือเราจะไปกินอาหารกลางวันเด็กไม่ได้ เรามีการเก็บต่างหากเฉพาะครู เพื่อที่จะประกอบอาหารให้ครูมารับประทาน เราจะเก็บเดือนละ 200 บาท ก็ตกวันละ 10 บาทต่อคน 200 บาทนี้ไม่ได้เก็บทุกคนแล้วแต่ครูท่านใดจะสะดวก เหมือนการผูกปิ่นโต ซึ่งช่วงปิดเทอมก็จะได้เงินที่เก็บนี้มาทำอาหารให้ครูกิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินเด็ก คือเงินเด็กเราจะไปแตะไม่ได้เลย ตรงนี้สามารถมาตรวจสอบบัญชีได้เลย

นางสุภัคร์ สุขกฤต รอง ผอ.รร.เมืองสุรินทร์ กลุ่มบริหารงบประมาณ กล่าวว่า ในส่วนที่ว่าเรียกเก็บของคุณครู ตรงนี้เราได้มีการประชุมทุกครั้งที่มีการดำเนินกิจกรรมต่างๆในโรงเรียน เราจะมีคณะทำงาน ในส่วนตรงนี้ไม่เกี่ยวกับอาหารเด็กนักเรียนเลย ส่วนเรื่องกระเช้าก็เป็นเงินของโรงเรียนไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนของอาหารกลางวันเด็ก และในส่วนที่ว่าเก็บเงินในช่วงที่ไม่มีเด็กมาเรียนก็เช่นกัน ในช่วงที่เด็กสอบเสร็จปิดเทอมคุณครูก็มาทำงานกันปกติอยู่แล้ว ทางโรงเรียนก็ได้ทำอาหารกลางวันไว้บริการคุณครู ส่วนตรงนี้เป็นเงินที่เราดำเนินการเองไม่เกี่ยวกับเงินอาหารกลางวันเด็กนักเรียนแต่อย่างใด ไม่ได้เบิกเงินของนักเรียนแม้แต่บาทเดียว และเราก็ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยัง สนง.เขต เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องเรียนขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนตรงนี้ก่อนหน้านั้นทางโรงเรียนเราก็ได้ดำเนินต่อเนื่องเลยก็คือการสั่งซื้อจากผู้ค้าเพียงรายเดียว และทางเทศบาลซึ่งเป็นเจ้าของเงินก็ได้เข้ามาตรวจสอบเหมือนกับว่ามาตามเงิน เพราะเราได้รับเงินงบฯจากทางเทศบาลเมืองสุรินทร์ วันที่เข้ามาตรวจสอบท่านก็ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าด้วยว่าจะมา ท่านก็มาดูว่าวันนั้นเราทำเมนูอะไรบ้างให้เด็ก ซึ่งวันนั้นจะเป็นน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ซึ่งเป็นเมนูที่เด็กโปรดมาก แล้วเมนูต่างๆเรามาจากโปรเกรม Thai School Lunch เราไม่ได้ทำอะไรโดยพละการ และท่านก็ได้มีการสอบถามถึงการดำเนินจัดซื้อจัดจ้างแบบไหน เราก็เลยบอกว่าสั่งจากร้านร้านเดียว ท่านก็ได้แนะนำว่าควรจะกระจายหลายๆร้าน เพราะว่าจะเป็นการซื้อตรงจากผู้ค้า ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และทางตรวจสอบภายในของเขตพื้นที่การศึกษา ก็ได้เข้ามาตรวจเหมือนกัน ก็ได้ให้คำแนะนำแบบเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกอย่างก็ดำเนินการตามระเบียบถูกต้อง

ซึ่งหลังจากมีการร้องเรียนเกิดขึ้น มีผลกระทบต่อทางโรงเรียนค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะตัวเองที่เป็นผู้ถูกร้อง ซึ่งเราไม่เคยทำอะไรโดยพละการ มีกรรมการสถานศึกษาคอยกำกับเราตลอด เราต้องการให้โรงเรียนพัฒนา เราทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีไม่ผ่านคณะกรรมการ ผู้บริหาร ขอให้เห็นใจคนทำงานด้วย บางทีเจอแบบนี้เราก็ท้อเหมือนกัน เราคนหนึ่งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกเหมือนกัน หาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับโรงเรียนก็ยังโดน ขณะที่เราเต็มที่กับงาน กับเด็ก เต็มที่กับทุกท่านไม่อย่างนั้นท่านผู้ใหญ่คงไม่เมตตาเราขนาดนี้ เห็นการทำงานเราที่ตั้งใจทำงานจริงๆ ก็ขอวอนขอความเป็นธรรมจากสังคมให้มองถึงจุดนี้ด้วย นางสุภัคร์ สุขกฤต รอง ผอ.รร.เมืองสุรินทร์ กล่าว

สำหรับ โรงเรียนเมืองสุรินทร์ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนชาย-หญิง รวมทั้งสิ้น 2,258 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 180 คน.

ภาพ-ข่าว ธนโชติ เจนจัด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *