ข่าวทั่วไป

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องบก เป็นของฝ่ายตรงข้าม เตรียมยื่นประท้วง UN

วันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก และเหยียบกับระเบิด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นาย ซึ่งหลังเกิดเหตุกองทัพภาคที่ 2 ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและพิสูจน์หลักฐาน เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อเข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ผลการพิสูจน์ 80% พบว่าเป็นระเบิดวางใหม่ โดยทางกัมพูชา ได้ออกหนังสืออ้างว่าไม่ได้เป็นผู้วางระเบิด พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่าพื้นที่ถูกวางระเบิดเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย

พ.อ.สมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ด้านมนุษยธรรมที่ 3 ได้กล่วว่า เมื่อวานหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่ 3 ได้นำกำลังพลจำนวน 7 นาย เข้าพิสูจน์ทราบ จุดแรกที่เจอ จำนวน 3 ทุ่นด้วยกัน รัสมีการวางทุ่นระเบิดทั้ง 3 ลูก ห่างกันประมาณ 40 เซ็นติเมตร ลักษณะการวาง จะไว้บนผิวดิน มีใบไม้ปกคลุมนิดหน่อย จุดที่ 2 เจอทั้งหมด 5 ทุ่น ลักษณะการวาง กระจายกันออกไปประมาณ 90 เซ็นติเมตร โดยการการกู้ได้ทั้ง 8 ลูก มีความใหม่ มีตัวอักษรค่อนข้างชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นระเบิดเก่า วางไว้นานจะมีวัชพืชปกคลุม

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวว่า สำหรับจุดที่วางทุ่นระเบิด จะเลยแนวการวางกำลังของกัมพูชามาข้างหน้าประมาณ 100-150 เมตร และหลังจากนี้ กกล.สุรนารี ก็จะทำการเก็บกู้ทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในแผ่นดินไทย โดยมาตรการในการตอบโต้ของกองทัพหลังจากนี้ คือจะทำรายงานไปถึงศูนย์ปฏิบัตรการกองทัพบก กองทัพบกก็รายงานต่อไปยังรัฐบาล เพื่อให้กระทรวงต่างประเทศยื่นไปที่ UN ซึ่งเป็นอนุสัญญาแอสโตรว่า ซึ่งกองทัพยืนยันว่า คู่กรณีเป็นคนวาง ส่วนการตอบโต้ทางการทหารนั้น จะเป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 2 ที่จะดำเนินการต่อไป

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ฝั่งกัมพูชาได้ตั้งข้อสังเกตุถึงการวางระเบิดในพื้นที่ของไทย ตนมองว่า ในความเป็นจริง โดยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม แล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นการวางที่หน้าแนว และผู้ที่ไปวางนั้นต้องเป็นทหารฝ่ายเดียวกัน ก็คือฝ่ายทหารไทย โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการของทห ารฝ่ายไทยเท่านั้น ที่จะไปหน้าแนวได้ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นการวางมาจากด้านฝั่งตรงข้ามอยู่แล้ว ซึ่นตนมองว่า น่าจะมีระเบิดหลงเหลืออยู่อาจจะถึงหลักร้อยลูก โดยหลังจากนี้ ในเมื่อมีเหตุการณ์ในการวางระเบิด ทางกองทัพต้องเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งทางกองทัพก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำผิดอนุสัญญาฯที่มีต่อกัน ซึ่งเดิมก็จะต้องระวังกับระเบิดเก่า โดยส่วนใหญ่เสื่อมสภาพหมดแล้ว.