ชุดปทส.กก.สืบสวนภ.จว.สุรินทร์ สนธิกำลังจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้หวงห้าม พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ
วันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 08.00 น.ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์มอบหมายให้ พ.ต.อ. อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ พ.ต.ท.ประยุทธ สอนสวาท รองผกก.สืบสวนภ.จว.สุรินทร์ สั่ง การให้ชุด ปทส.กก.สืบสวนภ.จว.สุรินทร์ โดยมี ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม ร.ต.ต.ธวัช เจนรอบ รองสว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ ทศพร ผบ.หมู่กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สร.2และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภธรทุงมน ได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย พร้อมของกลางหลายรายการ

โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีการลักลอบตัดไม้ บริเวณป่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือบ้านตาเจียด หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ กำลังทำงานอยู่ จึงได้กระจายกำลังเดินติดตามเสียงเลื่อยยนต์ดังกล่าว พบชายสองคน อยู่ในบริเวณที่ได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ ชายสวมเสื้อสีดำกำลังใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ตัดทอนไม้ ส่วนชายที่สวมเสื้อสีฟ้าและสวมหมวก กำลังจับปลายท่อนไม้ที่กำลังถูกตัด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ ชายทั้งสองคนได้หยุดและวางเลื่อยโซ่ ทราบชื่อภายหลังจากการสอบถามว่าชื่อ 1.นายพุฒ สายสู่ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ (สวมเสื้อสีดำเป็นคนใช้เลื่อย) 2.นายอัดชา เรืองชาญ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ (สวมเสื้อสีฟ้าเป็นคนช่วยจับไม้) เจ้ารหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบต้น จำนวน 1 ต้น ถูกตัดโค่นและทอนโดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ได้จำนวน 4 ท่อน ข้างตอไม้พบเลื่อยโซ่ยนต์ สีส้ม ยี่ห้อและหมายเลขเครื่องลบเลือน พร้อมแผ่นบังคับโซ่และโซ่ความยาว ขนาด 10 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และพบถังน้ำสีดำ ภายในบรรจุแผ่นบังโซ่ ความยาว 20 นิ้ว โซ่อะไหล่ จำนวน 1 เส้น และมีด จำนวน 1 เล่ม วางอยู่ข้างตอไม้

เจ้าหน้าที่ ได้สอบถามชายทั้งสองคน ทราบว่า นายพุฒ สายสู่ รับเป็นเจ้าของเลื่อยโซ่ยนต์ ได้ชวนนายอัดชา เรืองชาญ มาตัดไม้แดง เพื่อที่จะนำไปทำคอกวัว เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามถึงหลักฐานการได้มาของไม้ ปรากฏว่า ไม่มี ตรวจสอบที่ท่อนไม้ ไม่มีรูปรอยดวงตราใดๆ ของรัฐบาลตีประทับไว้แต่อย่างใด ตรวจสอบพิกัดไม้กับแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศแล้ว ปรากฏว่าบริเวณที่ถูกตัดไม้มีสภาพป่าหนาแน่น อยู่ในเขตป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของนายพุฒ สายสู่ และนายอัดชา เรืองชาญ เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตามพระราช บัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11,69 ฐาน “ร่วมกันทำไม้หวงห้าม ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้ แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่” และตามพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐาน “ร่วมกันมีและใช้เลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียน”

จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้นายพุฒ สายสู่ และนายอัดชา เรืองชาญ ทราบ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึด ไม้แดง จำนวน 4 ท่อน ปริมาตร 0.285 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 22.77 บาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐประมาณ 7,114.46 บาท โดยใช้ดวงตรา ย.696 ปีย่อ 68 เลขเรียง 05-08 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ และตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิด มอบเรื่องราวให้นายยุทธการ จิตรโคตร พนักงานพิทักษ์ป่า ส2 เป็นผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทุ่งมน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์