คึกคัก..น้ำล้นสปิลเวย์ ‘อ่างลำพอก’ ประชาชนแห่เที่ยววันหยุด สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน
วันที่ 1 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าว เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ระดับน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก ต.กุดหวาย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ หลังจากที่ได้มีชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลกุดหวายและตำบลใกล้เคียง ที่พาลูกหลานมาเที่ยวชมน้ำที่ไหลหลากลงมาในอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก โดยเฉพาะน้ำที่ล้นทางระบายน้ำคล้ายน้ำตกที่สวยงาม และพบว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ได้นำอาหารต่างๆมาวางขายริมทางเท้า ทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักในช่วงตอนเย็น และผู้ที่มาเที่ยวชมต่างได้พากันถ่ายภาพเชลฟี่ และพากันสูดอากาศยามเย็นอย่างมีความสุขกันเลยทีเดียว เป็นภาพบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่ง
นายบุญส่ง นิสัยกล้าผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่11ตำบลกุดหวาย อำเภอศีขรภูมิ กล่าวว่า ในห้วงตอนเย็นจะมีชาวบ้านต่างถิ่นพี่น้องชาวตลาดอำเภอศีขรภูมิและอำเภอสำโรงทาบ ที่พากันได้ทราบข่าวว่าในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยลำพอกมีน้ำที่ไหลหลากมาจากเทือกเขาเขาพนมดงรัก หลังจากฝนตกหลายพื้นที่ ไหลลงมาในพื้นที่ ทำให้น้ำที่ไหลมามีปริมาณน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆและไหลลงมาถึงอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก ก่อนที่จะไหลลงไปสู่ลำห้วยทับทันผ่านแม่น้ำชีและไหลลงสู่ลำแม่นำโขง จ.อุบลราชธานีต่อไป โดยมีน้ำที่ไหลท่วมจากพื้นถนน บริเวณประตูระบายน้ำ ที่เปิดให้เป็นเส้นทางให้ประชาชนได้สัญจรไปมา คล้ายน้ำตกที่สวยงามอย่างมาก บรรดานักท่องเที่ยวที่พากันได้ทราบข่าว ก็เลยพากันมาเที่ยวชมในห้วงวันหยุดราชการทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาและบรรดาพ่อค้าแม่ขายต่างมีรายได้จำนวนนับพันบาทต่อวันเลยทีเดียว
นายบุญส่งยังบอกอีกว่าในช่วงวันเพ็ญเดือนสิบสอง วันลอยกระทงทางผู้ใหญ่บ้านเอง จะจัดงานพิธีวันลอยกระทงที่นี่ด้วย โดยมีการประกวดนางนพมาศและการประกวดกระทงสวยงามและอนาคตจะจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลกุดหวาย ซึ่งมีอะไรอีกมากมายที่จะต้องนำมาแสดงและจะต้องได้พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ภายในบ้านเมืองก่อน
นายอาดัม สายเปรย์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่ได้นำสิ่งของมาขาย ก็ได้บอกว่า อยากให้ทาง อบต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดระเบียบให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพราะตำบลกุดหวาย ตำบลระแงง ตำบลยาง 3 ตำบล ถ้าหากว่าได้จับมือร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เพราะพื้นที่แห่งนี้มีประมาณ 1 หมื่นกว่าไร่ ถ้าหากมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์ ตนว่ารายได้มหาศาลและในส่วน อบต.ก็มีรายได้ในการจัดเก็บภาษีอีกด้วย.
ภาพ-ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว รายงาน