จับไม่เคยหมด! ล่าสุดรวบแก๊งค้าไม้พะยูง อีสานใต้กลุ่มใหญ่ 6 ราย
สุรินทร์-จนท.สนธิกำลัง จับขบวนการค้าไม้พะยูง อีสานใต้กลุ่มใหญ่ 6 ราย เตรียมขยายผลจับต่อเนื่อง
มีรายงานว่า เมื่อคืนที่ (12 ตุลาคม 2568) เวลาประมาณ 18.00 น. ภายหลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสนธิกำลังจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้าไม้พะยูงได้ 6 ราย ประกอบด้วย 1. นายผดุงศักดิ์ 2. นายวิเชียร อายุ 38 ปี 3. นายมั่น อายุ 42 ปี 4.นายจีรภัทร์ อายุ 24 ปี 5. นายดศิพงษ์ อายุ 30 และ 6. นายจักรพงษ์ ทั้งหมดเป็นชาวบ้านตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์
พร้อมตรวจยึดไม้พะยูงแปรรูปถากกลม จำนวน 5 ท่อน ปริมาตรรวม 0.267 ลูกบาศก์เมตร และตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิดจำนวน 8 รายการ ได้แก่ กระสอบปุ๋ยร้อยเชือกไนล่อนเป็นสายสะพายจำนวน 5 ชุด กระเป๋าสะพายข้าง 2 ใบ หมอนรองบ่า 5 ใบ ไฟฉายคาดศีรษะ 1 อัน ขวดบรรจุน้ำ 5 ขวด ยาหม่อง 1 อัน มีดถางหญ้า 1 เล่ม ฝักมีด 1 ฝัก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณป่าทิศใต้บ้านชำปะโต ตำบลอาโพน อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน- ห้วยสำราญ ทับซ้อนเขตป่าไม้ถาวรที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้สงวนไว้เป็นสมบัติของชาติ “ป่าห้วยสำราญ” ระหว่างที่ผู้ต้องหาทั้งหมดกำลังลำเลียงไม้พะยูงออกจากป่าในพื้นที่
คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จึงได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายผดุงศักดิ์ สบายดี พร้อมพวก รวม 6 ราย ในข้อหาการกระทำผิด พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ม.11 ฐานร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.48 ฐานร่วมกันแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปหวงห้ามไว้ในครอบครองปริมาตรเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต ม.70 ฐานร่วมกันรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ม.53 ฐาน เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.55(5) ฐานร่วมกัน เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิงแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างผิดกฏหมายเพื่อส่งให้นายทุนที่มารับซื้อมาแล้วหลายครั้งและถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ในพื้นที่อีสานใต้ หากไม้ดังกล่าวเล็ดลอดถึงมือนายทุนจะมีมูลค่าสูงหลายแสนบาทจนถึงหลักล้านบาท อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงที่เหลือต่อไป.
นพรัตน์ กิ่งแก้ว รายงาน
