สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้น นทท.ไทย-กัมพูชา แห่เที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม และตลาดชายแดนช่องจอมคึกคัก
สุรินทร์-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้น นักท่องเที่ยวไทย-เขมร แห่เที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม และตลาดชายแดนช่องจอมคึกคัก หลังก่อนหนานี้เงียบเหงา จากคนไม่หวังดี ปั่นกระแสโซเชี่ยลว่าจะเกิดสงคราม
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2568 ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุรินทร์ รายงานถึงบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังจากเกิดกระแสข้อพิพาทย์ระหว่างทหารไทยและกัมพูชา จนเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ทางโลกโซเชี่ยลต่างนำคลิปการเคลื่อนพลรถถัง อาวุธยุทโธปกรณ์ ต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นคลิปเก่ามาลงสร้างกระแสปลุกปั่นข่าวในทำนองว่าทหารท้้งสองประเทศกำลังเตรียมพร้อมและจะเกิดสงคราม กระแสดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และต่างวิตกกังวล ท้้งที่ทหารไทยแะกัมพูชา ก็ได้มีการประสานความร่วมมือในการเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยความสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด ซึ่งสถานการณ์การตรึงกำลังของทหารต่างๆเป็นการทำหน้าที่เตรียมพร้อมเฝ้าระวังอธิปไตยตามปกติอยู่แล้ว



การที่โลกโซเชี่ยลประโคมข่าวว่าจะเกิดสงครามดังกล่าว ก่อนหน้านี้ในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการค้าขายชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการค้าขายที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กลับเงียบเหงาไปถนัดตา ประชาชนต่างวิตกกังวลว่าจะเกิดสงครามตามกระแสข่าวโซเชี่ยล จึงไม่กล้าเดินทางมาเที่ยวซืื้อสินค้าตามปกติ ขณะที่ปราสาทตาเมือนธมก็เงียบเหงาเช่นเดียวกน


ล่าสุดพบว่า สถานการณ์ต่างๆที่เกิดกระแสข่าวในโชเชี่ยลผ่านไปได้ระยะหนึ่ง พบว่าประชาชนเริ่มมั่นใจมากขึ้น ว่าสถานการณ์ยังคงปกติ ประกอบกับทางรัฐบาลไทยได้มีการประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อเตรียมพูดคุยเจรจาระหว่างประเทศ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารทั้งสองฝ่าย ก็มีการพบปะพูดคุยเจรจาในระดับพื้นที่แล้ว ตั้งแต่ชายแดน จ.สระแก้ว รวมไปถึงในพื้นที่จังหวัดชายแดยอีสานใต้ ในความดูแลของกองทัพภาคที่ 2 ทำให้ประชาชนเริ่มเชื่อมั่นว่าจะไม่กิดสงครามขึ้นดังกล่าว

และต่างเริ่มพากันเดินทางมาเที่ยวชมกลุ่มปราสาทตาเมือนธม กันอย่างคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ท่ามกลาง จนท.ทหารที่ดูแลรักษาความปลอดภัย รวมทั้งเป็นไกค์นำชมตัวปราสาทอย่างใกล้ชิด ขณะที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวเขามาเที่ยวเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นแล้วเช่นกัน
โดยเจ้าหน้าที่ทหารไทยในพื้นที่ ยืนยันว่า ในพื้นที่ยังไม่มีเหตุการตึงเครียดอย่างที่เป็นข่าวปั่นกระแสลงในโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่อย่างใด นักท่องเที่ยวยังคงขึ้นมาเที่ยวชมความงดงามของโบราณสถานปราสาทตาเมือนธม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารไทย และ ทหารกัมพูชา คอยให้คำแนะนำและดูแลนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นใกล้ชิด และยืนยันว่าไม่มีสถานการณ์เคลื่อนพลทหารเข้าประชิดชายแดนเพื่อทำการสู้รบแต่อย่างใด จึงอยากสร้างความมั่นใจว่าทางกองทัพไม่ได้วิตกกังวลและยังคงสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยแก่ประชาชนที่จะเดินทางมาเที่ยวชมที่ โบราณสถานปราสาทตาเมือนธม

ด้านประชาชนในพื้นที่ นายวิชิต เหลาสี อายุ 53 ปี และภรรยา นางสำเนียง สมานดวง อายุ 52 ปี ชาวบ้านหนองคันนา หมู่ 8 ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้ชายแดนปราสาทตาเมือนธมมากที่สุด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองและภรรยาไม่ได้หวั่นวิตกกังวลถึงสถานการณ์ใดๆเลยซึ่งยังคงใช้ชีวิตประจำวันและออกจากบ้านไปหาแหย่ไข่มดแดงเพื่อนำไปขายสร้างอาชีพ และชาวบ้านยังคงออกไปทำมาหากินกันอย่างปรกติเหมือนเดิม โดยตั้งแต่ได้ยินข่าวปั่นกระแสสร้างความตึงเครียดว่าจะมีการสู้รบกันในพื้นที่ ก็รู้สึกตกใจ แต่ก็แค่เตรียมตัวรับกับสถานการณ์ เพราะว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ต่างมีประสบการณ์การอพยบ เมื่อตอนปี54 กันมาแล้วเลยไม่หวั่นวิตกกังวลอะไรมาก ส่วนการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบต่อสถานการณ์กรณีหากเกิดการสู้รบขึ้นมาจริงๆ ก็ได้มีผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่กรมการปกครองและฝ่ายความมั่นคงได้ลงพื้นที่ดูแลประชาชนและประกาศบอกเสียงตามสายทำความเข้าใจต่อประชาชนสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ว่าไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ ขอให้เชื่อมั่นกับทางเจ้าหน้าที เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่มีการประกาศสู้รบหรือมีการปะทะกันใดๆทั้งสิ้น หากมีการสู้รบกันจริงทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องประกาศเพื่อ อพยบ ประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยตั้งนานแล้ว ส่วนทางการทหารก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวและยังไม่มีการเคลื่อนพลหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ประชิดชายแดนอย่างที่เป็นข่าวใดๆสิ้น ส่วนประชาชนในพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตและยังทำมาหากินและทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่อย่างปรกติ จึงวอนสื่อโซเชียลมีเดียที่ชอบปั่นกระแสปัญหาระหว่างชายแดนให้หวั่นวิตกกังวล ขอหยุดปั่นกระแสเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปอีกจุดซึ่งเป็นร้านขายของชำอยู่ภายในชุมชนบ้านหนองคันนาเขตพื้นที่ติดเขตชายแดน และได้สอบถามไปทาง นางสาวกาญจนา สุขแสวง ซึ่งเป็นครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองคันนา ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก เล่าให้ฟังว่า ในเขตพื้นที่ยังไม่มีสถานการณ์สู้รบใดๆทั้งสิ้น ส่วนความปลอดภัยของเด็กก็มีการซ้อมแผนให้เด็กๆได้วิ่งเข้าบังเกอร์หรือหลุมหลบภัย เพื่อเป็นการซักซ้อมให้เด็กๆได้การตื่นตัวและเข้าใจหากมีสถานการณ์ ส่วนประชาชนเชื่อว่าทุกคนเคยมีประสบการณ์ อพยบ เมื่อตอนปี 54 มาแล้วจึงไม่กังวลต่อสถานการณ์ ซึ่งตนเองเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าจะไม่มีสถานการณ์การสู้รบใดๆเกิดขึ้นและเชื่อมั่นทางเจ้าหน้าที่การทหารและกองทัพที่ดูแลประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด จึงไม่มีความวิตกกังวลใดๆ นางสาวกาญจนา สุขแสวง ครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองคันนา ยังฝากถึงผู้ที่ประสงค์ไม่ดีปั่นกระแสการสู้รบระหว่างชายแดน ขอให้หยุดปั่นกระแส ถือว่าสงสารประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ และเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและทหารที่ปฏหน้าที่ในพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นคงส่งเสริมความมั่นใจให้กับประชาชน วอนขอฝากถึงกลุ่มที่ชอบโพสต์ปั่นถึงเรื่องปัญหาความตึงเครียดระหว่างชายแดน ขอให้หยุดพฤติกรรมการลงโซเซียล ขอให้ตระหนักถึงประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ด้วย และได้ประชาสัมพันธ์ถึงนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมโบราณสถานปราสาทตาเมือนธม ให้มาท่องเที่ยวที่พนมดงรักกันเยอะและเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและขอให้เชื่อมั่นถึงความสัมพันธ์อั้นแน่นแคว้นของทั้งสองประเทศอีกด้วย.


นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงาน