หมดอนาคต รวบ จนท.ขสป.ห้วยทับทับทันฯร่วมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน – ห้วยสำราญ
วันที่ 11 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 23.00 น. ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต. สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.วิชิตเวช ต๊ะผัด รองผกก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ สั่งการให้ ชุด ปทส.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ มี ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม(หน.ชุด) ร.ต.ต. ธวัช เจนรอบ รองสว.กก.สืบสวนและ จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ ทศพร ผบ.หมู่กก.สีบสวน ภ.จว.สุรินทร์ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนสภ.ดม, เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนแยก 2 กองกำลังสุรนารี, ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม, คณะเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) มี สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 สำนักงาสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร, และเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามฯ สายที่ 2 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน ตรวจยึดของกลาง ไม้พะยูงท่อนจำนวน 2 ท่อน เลื่อยลันดา จำนวน 1 ปื้น (พบบริเวณจุดเกิดเหตุ) เลื่อยตัด จำนวน 1 ปื้น (พบข้างถนนใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ)
โดยเมื่อเวลาประมาน 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสืบทราบว่ามีกลุ่มขบวนการทำไม้พะยูงในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ จะมีการเข้ามาลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน – ห้วยสำราญ โดยมีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตธุ์สัตว์ป่าหัวยทับทันฯ อยู่ในกลุ่มขบวนการ และจะมีการลักลอบตัดและซื้อขายกันบริเวณทิศใต้บ้านกะเลงเวก ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ห่างจากจุดสกัดกะเลงเวกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 300 เมตร โดยสืบทราบว่าไม้ได้ถูกตัดและจัดเตรียมในการลักลอบนำออกมาจากป่า เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจัดกำลังในพื้นที่เป้าหมาย บริเวณจุดสกัดกะเลงเวก ของ ขสป.ห้วยทับทัน- ห้วยสำราญ จนเวลาประมาณ 23.00 น. พบมีรถกระบะ 1 คัน ขับมาในเส้นทางลูกรังจากทางบ้านจรัส มายังบริเวณจุดสกัดกะเลงเวก (ห่างจากจุดวางไม้ประมาณ 300 เมตร) และวนเข้าไปภายในบริเวณจุดสกัดเพื่อกลับรถมาจอดในลักษณะตั้งลำรถหันหัวรถออกเปิดกระจกรถ และไม่ดับเครื่องยนต์ โดยในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ ร.ต.อ. ปราโมทย์ เที่ยงธรรม นายปองคุณ ทองแผ่น (จนท.ขสป.ห้วยทับทันฯ) และนายศักดิ์ชัย มหาภูวตานนท์ (จนท.ขสป.ห้วยทับทับทันฯ) ที่ได้ร่วมดักซุ่มได้แบ่งชุดขยับเข้ามาใกล้เพื่อเข้ามาสังเกตการณ์บริเวณที่รถยนต์ขับเข้ามาจอดใกล้ๆกับกองไม้ และมีบุคคล 2 คน อยู่บริเวณกองไม้เดินเข้าไปพูดคุยกัน และนายปองคุณ ทองแผ่น ได้ใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูบุคคลดังกล่าว บริเวณรถยนต์ทำให้รู้ว่า คนที่ขับรถยนต์มาคือ นายสายชล แก้วเลิศ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ของ ขสป. หัวยทับทัน – ห้วยสำราญ เจ้าหน้าที่จึงได้ขยับเข้าใกล้รถ ปรากฏว่า 1 ใน 2 ของคนที่อยู่ใกล้กองไม้ ได้เดินมาในจุดที่เจ้าหน้าที่ส่องกล้องในระยะกระชั้นชิด จึงพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ ชายคนดังกล่าว จึงได้ร้องตะโกนส่งสัญญาณคนที่ขับรถมารีบวิ่งขึ้นรถเร่งเครื่องยนต์และขับหนีออกไป ส่วนอีกสองคนได้วิ่งหลบหนีไปกันไปคนละทาง โดยเจ้าหน้าที่ดักชุ่มได้วิ่งติดตามเพื่อควบคุมตัวแต่ชายดังกล่าวได้แสดงอาการขัดขืน ดิ้นหลุด และหลบหนีไป
นายสำเรียบ ศักดิ์สิริ พนักงานพิทักษ์ป่า ส3 หัวหน้าฝ่ายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน- ห้วยสำราญ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายตามสายบังคับบัญชา ได้เรียกตัวนายสายชลฯทางโทรศัพท์ให้มาพบเพื่อสอบถามที่สำนักงานเขตฯ โดยนายสายชลฯ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะคันดังกล่าวข้างต้นและเป็นคนขับรถในช่วงเวลาดังกล่าว โดยตนได้ออกไปกรีดยางตั้งแต่หัวค่ำ วันที่ 10 มกราคม 2568 จนถึงเวลาตี 5 ของวันที่ 11 มกราคม 2568 และช่วงเช้าได้กลับบ้านแต่งตัวตัวเพื่อจะไปเข้าเวรที่หน่วยพิทักษ์ป่าขยอง โดยได้รับทราบจากนายชัชวาลฯ หรือนายต้อม ว่า การลาดตระเวนเลื่อนออกไป แต่ตนไม่ทราบเนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งทางไลน์จึงเปลี่ยนใจไปนั่งเล่นที่จุดสกัดกะเลงเวก ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กม. ต่อมานายกฤษณะ รักยิ่ง ราษฎรบ้านจรัสพัฒนา ซึ่งรู้จักคุ้นกับตนได้โทรมาหาตนเพื่อชักชวนไปเสพยาบ้า และต่อมาเวลาประมาณใกล้เที่ยง นายกฤษณะฯ ได้ตามมาหาตนที่จุดสกัดกะเลงเวก นั่งเล่นอยู่ด้วยกันที่จุดสกัดฯ และเวลาประมาณ 20.00 น. นายกฤษณะฯ ชักชวนตนไปเอายาบ้าที่บ้านจรัสมาเสพ ตนและนายกฤษณะฯ จึงได้ออกไปด้วยกัน เมื่อเวลา ประมาณ 21.00-22.00 น. ได้กลับมาที่จุดสกัดกะเลงเวก โดยมีนายมัด นายสมพงษ์ และนายต้อม อยู่ที่จุดสกัดด้วยตนไม่อยากเสพยาเนื่องจากต้องไปกรีดยาง จึงพากันชวน นายกฤษณะฯ นั่งมาในรถด้วยกัน ขับมาได้ประมาณ 300 ม. จึงส่งนายกฤษณะฯ ลง ส่วนตนกลับรถและออกรถเพื่อจะไปอีกเส้นทางที่เป็นทางลาดยางแทนจนเจ้าหน้าที่ได้ประสานสอบถามให้มาให้ข้อมูลดังกล่าว
นอกจากนี้นายสายชล แก้วเลิศ ให้ความยินยอมในการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ผลการทดสอบเป็นบวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยละเอียด พบไม้พะยูงท่อนจำนวน 2 ท่อน ถูกรัดด้วยไม้คานยาวและรัดตรึงด้วยเชือกสำหรับยกเคลื่อนย้าย เจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฐานร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) อันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยดวงตราค่าภาคหลวงหรือรอยดวงตรารัฐบาลขายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันรับไว้ด้วยประการใดซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อ
เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันยึดไม้พะยูง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดม ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมอบหมายร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม ตำแหน่งรองสว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ เป็นผู้ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน นายศักดิ์ชัย มหาภูวตานนท์ พนักงานราชการ ตำแหน่ง พนักงานพิทักษ์ป่า และ นายปองคุณทองแผ่น พนักงานราชการ ตำแหน่ง พนักงานพิทักษ์ป่า เป็นพยาน สำหรับไม้พะยูงของกลางได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทับทัน – ห้วยสำราญ เรียบร้อยแล้ว
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์