จนท.สนธิกำลังตรวจยึดไม้พะยูงถูกโค่น 2 ต้นกลางป่า หลังจัดกำลังซุ่มหลายวันไม่พบผู้กระทำผิด
วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2567 เวลา 08.30น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต. สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ มอบหมายให้ พ.ต.อ. อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สืบสวนภ.จว.สุรินทร์ พ.ต.ท.วิชิตเวช ต๊ะผัด รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ สั่งการให้ ชุด ปทส. กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ โดยมี ร.ต.อ ปราโมทย์ เที่ยงธรรม ร.ต.ต. ธวัช เจนรอบ รอง สว.ก สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ จ.ส.ต. ณัฐวุฒิ ทศพร ผบ.หมู่ กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ (หน่วยพิทักษ์ป่าตาเมียง) , กองพันทหารราบที่21 ร้อย ร.212 ,เจ้าหน้าที่ทหารชุดหน่วยตรวจเฝ้าระวังชายแดนที่2,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พนมดงรัก – ตรวจยึดของกลาง1.ไม่พะยูง จำนวน 7 ท่อน ปริมาตร 0.818 ลบ.ม. ค่าภาคหลวง 773.44 บาท มูลค่าความเสียหาย 225,500 บาท
โดยเมื่อวันที่ (15 ธันวาคม 2567) เวลา 20.00 น. ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหัวยทับทัน-หัวยสำราญ ได้รับแจ้งงจากพลเมืองตีไม่ประสงค์ออกนาม ว่าพบไม้พะยูงถูกซุกซ่อนอยู่ในสวนอ้อยบริเวณทิศใต้บ้านโคกแสลง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมกันกันเข้าไปตรวจสอบยังบริเวณพื้นที่ที่ได้รับแจ้งดังกล่าว พอไปถึงจุดที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่พบไม้พะยูง จำนวน 2 ท่อนถูกวางซุกซ่อนอยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ลักษณะถูกตัดโดยใช้เลื่อยตัด และไม้พะยูงทั้ง 2 ท่อน มีลักษณะใหม่สด เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันวางแผนดักชุ่มรอบบริเวณจุดที่พบไม้พะยูง ทั้ง 2 ท่อน จนถึงช่วงเข้าของวันที่ 16 ธันวาคม 2567 แต่ไม่พบผู้หนึ่งผู้โดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของไม้พะยูงทั้ง 2 ท่อนดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังตรวจจสอบบริเวณเส้นทางที่เข้ามายังบริเวณสวนอ้อยดังกล่าว ขณะตรวจสอบเส้นทางเจ้าหน้าที่พบร่องรอยล้อรถเข็นตามเส้นทางมุ่งหน้าไปบริเวณป่าด้านทิศใต้จุดเกิดเหตุจุดที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงได้เดินติดตามร่องรอยดังกล่าวไป พอไปถึงเจ้าหน้าที่พบตันพะยูงถูกตัดโค่นล้มลงคาตอ จำนวน 2 ต้น ต้นที่ 1 ถูก ตัดทอนและชักลากออกไปจากพื้นที่แล้วบางส่วน ซึ่งส่วนที่ถูกชักลากออกไปจากพื้นที่นั้นมีลักษณะตรงกันกันกับไม้พะยูง ที่พบในสวนอ้อยทั้ง 2 ท่อน ต้นที่ 2 ถูกตัดทอนเอาไว้ จำนวน 1 ท่อน เพื่อรอการชักลากออกจากพื้นที่ ซึ่งไม้พะยูงทั้ง 2 ตันที่ถูกตัดโดนดังกล่าวนั้น มีลักณะใหม่สดใบยังมีสีเขียวสดอยู่ ที่หน้าตัดของตอพะยูงทั้ง 2 ตอ ที่ถูกตัดโค่นนั้นมีร่องรอยถูกตัดโค่นโดยการใช้เลื่อยตัด เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงได้วางแผนเข้าตักซุ่มบริเวณที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด ต่อจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 08.19 น. แต่ไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของไม้พะยูงทั้ง 2 จุดดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไม้พะยงทั้ง 2 จุด และตัดทอนไม้พะยูงส่วนที่เหลือยังไม่ถูกตัดทอน รวมไม้พะยูงของกลางที่ตรวจยึดทั้ง 2 จุด ได้ จำนวน 7 ท่อน วัดคำนวณคิดเป็นปริมาตรรวมได้ 0.818 ลบ.ม. คิดค่าภาคหลวงรวมได้ 773.44 บาท คิดมูลค่าความเสียหายของรัฐรวมได้ 225500 บาท นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้ขออนุญาตพนักงานสอบสอบสวนนำไม้พะยูงของกลางทั้ง 7 ท่อน ในการกระทำผิดไปเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัยที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-หัวยสำราญพร้อมทั้งตีตรา ย. 15661 ประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้พะสูงของกลางทุกท่อนแล้ว
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์