จังหวัดกาฬสินธุ์ รวมจิตอาสาจัดรำวงย้อนยุคหารายได้ปรับปรุงลานเจ้าเมือง

6 พฤศจิกายน 2566 ที่ลานเอนกประสงค์ อนุสาวรีย์พระประชาชนบาล อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรำวงย้อนยุค ของกลุ่มจิตอาสาภาคประชาชนและเทศบาลตำบลโนนบุรี นำโดยนายนพดล ร้อยพวง ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารการปกครอง นายบุญมี แก่นนาคำ นายกเทศมนตรีตำบลโนนบุรี นายพรหมมินทร์ ฉิรินัง ประธานดำเนินงานกิจกรรมรำวงย้อนยุค นางนฤมล สิงห์เงา ปลัดเทศบาลตำบลโนนบุรี พร้อมด้วยนางสาวชมพิศ ปิ่นเมือง ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ อ.สหัสขันธ์ คณะนักร้องจิตอาสา และคณะเหี่ยวฟ้าพาเพลิน เป็นนางจำจิตอาสา

นายบุญมี แก่นนาคำ นายกเทศมนตรีตำบลโนนบุรี กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมรำวงย้อนยุค เป็นกลุ่มจิตอาสาภาคประชาสังคมที่ร่วมด้วยช่วยกันในการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างสีสันงานวัดในงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหะณะ สักการะพระประชาชนบาล นมัสการพระพรหมภูมิปาโล ครั้งที่ 19 ซึ่งภายหลังจากประเพณีตักบาตรเสร็จสิ้นจะเป็นกิจกรรมสันทนาการ โดยกิจกรรมรำวงย้อนยุค ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมากที่แวะมาเที่ยวมารำวงและได้ร่วมบุญ โดยคณะจิตอาสาที่มีภาคประชาชนจากหลายภาคส่วนมาร่วมสร้างสีสันโดยมุ่งหารายได้ในการปรับปรุงลานพระประชาชนบาลที่ชำรุดทรุดโทรม

นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ลานพระประชาชนบาล หรือลานเจ้าเมืองสหัสขันธ์ ได้ก่อสร้างมาหลายสิบปี ซึ่งการก่อสร้างครั้งแรกเป็นการระดมทุนจากประชาชนชาวอำเภอสหัสขันธ์ โดยมีพระครูสิริพัฒนนิเทศก์ ดร. และนายสมเจตน์ เต็งมงคล อดีตนายอำเภอสหัสขันธ์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นศูนย์กลางในการรวมจิตศรัทธาสร้างรูปเหมือนจำลองพระประชาชนบาลและลานอนุเสาวรีย์ และผ่านช่วงเวลามานานสภาพของลานเจ้าเมืองได้ชำรุด ทรุดโทรม การเข้าปรับปรุงจำเป็นต้องใช้งบประมาณ ในส่วนของคณะจิตอาสาที่ได้เข้ามาจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุนถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือบ้านเมืองได้อย่างดียิ่ง โดยการจัดกิจกรรมรำวงย้อนยุค เป็นกิจกรรมสันทนาการ สร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับคนทุกกลุ่มวัย ถือเป็นกิจกรรมผ่อนคลายหลังเสร็จสิ้นงานบุญประเพณีตักบาตรเทโวโรหะณะฯ ซึ่งเป็นงานประจำปีของอำเภอสหัสขันธ์

สำหรับอำเภอสหัสขันธ์ ได้มีการก่อตั้งเป็นหัวเมืองในปี พ.ศ.2410 โดยมีพระประชาชนบาล เป็นเจ้าเมืองก่อนจะเปลี่ยนเป็นอำเภอสหัสขันธ์ โดยได้โยกย้ายถิ่นฐานหลังมีการสร้างเขื่อนลำปาวในปี 2510 จากบ้านคำคา ตำบลโนนศิลามาในที่ปัจจุบัน โคกป่าภูสิงห์ หรือ ตำบลโนนบุรีในปัจจุบัน.