เจ้าหน้าที่บุกตรวจยึด คลังแสง อาวุธสงคราม กลางสวนยาง อำเภอบัวเชด รวบผู้ต้องหาวัย 33 ปี สารภาพ เอาไว้ล่าสัตว์ป่า
วันที่ 3 ก.ค.67 นายวีระเกียรติ รัมณีย์รัตนากุล นาย อ.บัวเชด จ.สุรินทร์พร้อมทั้ง ผกก.สภ.บัวเชด,เจ้าหน้าที่ปกครอง อ.บัวเชด จ.สุรินทร์,จนท.ตำรวจ สภ.บัวเชด,จนท.กองร้อย ตชด.ที่ 214 ,จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1,จนท.หน่วยพิทักษ์ป่าเขาศาลา,จนท.ตำรวจจากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สุรินทร์, และ จนท.กองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.บัวเชดที่ 7 ได้ทำการขอหมายค้น จากศาล จ.สุรินทร์ ที่ ค118/67 โดยร้อยตำรวจเอก ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ หลังสงสัยว่าที่กระท่อมไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่กลางสวนยางพารา ม.1 บ.จรัส ต.จรัส อ.บัวเชดฯ จะมีอาวุธสงครามเก็บไว้ในครอบครอง ซึ่งจากการตรวจค้นของ จนท.ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ภายในกระท่อม-กลางสวนยางในพื้นที่ บ.จรัสฯดังกล่าว พบอาวุธสงคราม อาทิ อาวุธปืนสงคราม AK 47 (อาก้า) 1 กระบอก พร้อมเครื่องประสุนปืน,อาวุธปืนยาว ขนาด .22 LR 1 กระบอก พร้อมติดตั้งกล้องเล็ง ไฟฉายและกระบอกลดเสียง,ปืนลูกซองเดี่ยว เบอร์ 12 พร้อมเครื่องกระสุน,อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุน,อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 แม็กนั่ม พร้อมเครื่องกระสุน จำนวนมาก,แท่นกลึงไ/ฟฟ้า ประกอบเอง 1 เครื่อง,มอเตอร์หินเจียไฟฟ้า,มอเตอร์เครื่องกัดเจาะโลหะ,ชุดดอกสว่าน,ชุดตัดเชื่อมถังแก๊ส,เครื่องหินเจียไร้สาย,หินเจียไฟฟ้า,สว่านเจาะกระแทกไฟฟ้า,เลื่อยวงเดือน,เครื่องเชื่อมไฟฟ้า,กบไสไฟฟ้า,แผ่นบังคับโซ่,เลื่อยโซ่ยนต์,ปากกาจับชิ้นงาน,ตะใบและสิ่ง เป็นค้น
พร้อมผู้ต้องหาคือนาย สุทธิพงษ์ อายุ 33 ปี ชาวบ้านตำบลจรัส อ.บัวเชดฯ จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้มีการนำอาวุธปืนและกระสุนต่างๆนำมาประกอบ ที่ผ่านมาเคยถูกจับอาวุธปืน .22 พึ่งพ้นโทษออกมาได้ 4-5 ปีแล้ว ส่วนอาวุธปืนอาก้าซื้อมาในราคา 1 หมื่นบาท จากทหารชาวกัมพูชา ระหว่างที่ตนไปเก็บเห็นเห็นทหารกัมพูชาถือ เลยขอซื้อ อาวุธปืนต่างๆจะนำไปไว้ล่าสัตว์ เพื่อนำมาเป็นอาหาร บางส่วนขายให้ชาวบ้านในหมู่บ้านจรัส ม.1 และ ม.8 โดยสัตว์ที่ล่ามาขายได้แก่ ตัวนิ่ม ขาย ก.ก.ละ 300 บาท,เก้ง ก.ก.ละ 400 บาท ,ตะกวด ก.ก.ละ 150 บาท โดยจะเข้าไปล่าสัตว์ในช่วงที่ว่างเว้นจากการกรีดยาง เป็นประจำ ซึ่ง จนท.ได้มีหลักฐานจากข้อมูลทางโทรศัพท์ของผู้ต้องหา ว่ามีพฤติกรรมในการล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยการใช้ปืนที่ยึดได้ในครั้งนี้จริง โดยกล่าวหาว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 53 วรรคหนึ่ง ฐานเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ฐานล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตมาตรา 55 วรรคหนึ่ง ฐานเก็บหา นออกไป กระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเซส หรือความหลากหลายทางชีวภาพ มาตรา 12 ฐาน ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 17 ฐานครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิด ตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 ฐานนำเข้าหรือมีไว้ซึ่งเลื่อยซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ส่วนจุดประสงค์ที่แท้จริงที่มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมากดังกล่าวนั้น จนท.ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สุรินทร์จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลอีกครั้ง พร้อมได้นำตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.บัวเชดต่อไป.
ภาพ-ข่าว นพรัตน กิ่งแก้ว
