พ่อเฒ่าวัย 72 ปี สานไซดักปลาขาย ส่งหลาน 3 คนเรียนหนังสือ

19 มีนาคม 2567 ที่ริมถนนใกล้สี่แยกบ้านโนง ไปบ้านณรงค์ เส้นทางระหว่างอำเภอศรีขรภูมิไปอำเภอศรีณรงค์ บริเวณบ้านโนง ต.ศรีสุข อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ เปิดเป็นร้านค้าเครื่องจักสาน มีนายดำรงค์ สุธรรม อายุ 72 ปี กำลังนั่งสานไม้ไผ่ ทำลอบ ไซดักปลา และไม้กวาด วางขายที่หน้าร้าน โดยจะเห็นได้ว่าแต่ละขั้นตอนจะปราณีตมาก เพื่อความคงทนและแข็งแรง ซึ่งยุคปัจจุบันนั้นงานจักสาน ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนำไปจับหรือดักปลา แต่เป็นการนำไปตั้งโชว์ หรือบางรายก็นำไปทำเป็นเครื่องรางของขลัง(สายมูเตลู) จึงเป็นอาชีพที่เด็กยุกหลังๆเริ่มจะหาดูได้ยากแล้ว

นายดำรงค์ สุธรรม ได้เล่าว่า ตนเองอยู่กับภรรยา ชื่อ นางทองดี มณีศรี อายุ 69 ปี และหลานอีก 3 คน วัยกำลังกิน กำลังนอน โดยก่อนหน้านี้ ตนเองยังสามารถเดินเหินได้สะดวก ก็ออกไปรับจ้างหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ พออายุเริ่มมากขึ้น จู่ๆ แข้งขาไม่ค่อยมีแรง เดินเหินไม่สะดวก หูก็ไม่ค่อยได้ยิน สายตาก็เริ่มฟ่าฟาง ไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้ ซึ่งก็คิดว่า อาจเป็นเพราะเมื่อสมัยหนุ่มๆ ตนเองเคยเป็นนักมวยมาก่อน คงเกิดจากการกระทบกระทั่งบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นมาได้ 3 ปีแล้ว แต่เพื่อครอบครัว และหลานน้อยอีก 3 คน ตนเองอยู่เฉยไม่ได้ จึงได้ริเริ่มทำเครื่องจักสาน ซึ่งเป็นความรู้เก่าที่ร่ำเรียนสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยหาซื้อไม้ไผ่มาจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ทำทั้งไม้กวาด ลอบ หรือไซไว้สำหรับดักปลา ฯลฯ

นายดำรงค์ สุธรรม ได้เล่าต่ออีกว่า โดยแต่ละวันจะมีลูกค้าที่ผ่านไป-มา แวะเวียนมาซื้อบ้าง บางวันก็ขายไม่ได้เลย รายได้จะอยู่ที่ 300-500 บาทต่อวัน ซึ่งตนเองนั้นจะตั้งราคาขายในราคาที่มิตรภาพ สำหรับ ลอบ หรือไซดักปลา ก็ขายตามขนาด เริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาท ถึงหลักพันบาท ส่วนไม้กวาดขาย 3 ด้าม 100 บาท พอได้ค่าเล่าเรียนของหลาน ๆ ทั้ง 3 คน แต่ก็ต้องใช้อย่างประหยัด หากใครสนใจสั่งซื้อ สามารถเข้ามาเลือกชมที่ร้านได้ หรือสามารถสั่งซื้อสั่งทำได้ทางโทรศัพท์ที่ 098-340-4892.

ภาพ-ข่าว ทวี บุญเสก