ชาวบ้านโวย..สร้างถนน 3 ปี พังจ้อย! ด้าน อบต.ระบุ ซ่อมไม่คุ้มต้องรองบปี 67 รื้อสร้างใหม่
31 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลนารุ่ง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าถนนสายบ้านกะลัน -นารุ่ง ที่ก่อสร้างมาเมื่อปี 2563 ได้เกิดพังเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทาง ทำให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมาได้รับความเดือดร้อนกันเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักและเป็นทางลัดเข้าตลาดบ้านกะลันทะลุเชื่อมต่อไปยังอำเภอสำโรงทาบและยังเป็นเส้นทางหลักเข้าไปยังเขตอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์อีกด้วย ทำให้การสัญจรไปมาของประชาชน โดยพาะเด็กนักเรียนนักศึกษาที่จะต้องขับขี่รถไปโรงเรียนในอำเภอโดยใช้เส้นทางนี้จำนวนมาก
สำหรับโครงการถนนเส้นดังกล่าว ก่อสร้างมาแล้วประมาณ 3 ปี เป็นโครงการก่อสร้างขององค์การบริหารส่วนตำบลนารุ่ง ชื่อโครงการถนนลาดยาง Asphaltic Concret (ถนนกมลลาศน์) รหัสทางหลวงสร.ถ.94-007 สายนารุ่ง-กะลัน หมู่ที่ 1 บ้านนารุ่ง ตำบลนารุ่ง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ปริมาณงานผิวจราจรกว้าง 6 เมตรยาว 2,000 เมตร หรือมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 16,000 เมตร พร้อมป้ายประชาสัมพันธ์โครงการจำนวน 1 ป้ายตามรายละเอียดที่ อบต.นารุ่งกำหนด งบประมาณ 8,670,000 บาท(แปดล้านหกแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน) วันที่เริ่มสัญญาวันที่ 28 พฤษภาคม2563 วันสิ้นสุดสัญญา 24 กันยายน 2563 ผู้รับจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัดรัตนชาติก่อสร้าง
ลุงจ่อย(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 70 ปี ชาวบ้านดู่อาราง ต.นารุ่ง กล่าวว่า ถนนเส้นนี้พึ่งสร้างเสร็จไม่นานประมาณ 3 ปี ก็เริ่มพังเป็นหลุมเป็นบ่อ รถ จยย.ตกหลุมเสียหลักล้มอยู่บ่อยครั้ง และเป็นเส้นทางหลักไปทะลุได้ทั้ง อ.สำโรงทาบ และ อ.ศีขรภูมิ มีชาวบ้าน นักเรียนสัญจรจำนวนมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขให้ด้วย
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังท้องถิ่นอำเภอศีขรภูมิ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ บอกเพียงสั้นๆว่าเสียดายเงินงบประมาณ เกือบ 10 ล้าน ที่ก่อสร้างไป ถนนก็ใช้ไม่ได้ ขนาดยังไม่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่าน แต่ถนนก็ยังเละพังเสียหายได้ถึงขนาดนี้ ถ้าหากว่าเป็นถนนที่มีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่าน ก็คงแย่มากไปกว่านี้ เสียดายเงินที่ก่อสร้างไป ถ้าหากว่ามีการรื้อโครงการออกไปและจัดหางบอื่นมาลงแทน ก็ต้องดูว่างบปี 67 จะพอมีหรือไม่ ก็คงต้องวิ่งหาเงินอุดหนุนเฉพาะกิจมาลงต่อไป
นายวัลลพ บรรเทาทุกข์ รอง ผอ.กองช่าง อบต.นารุ่ง กล่าวว่า ถนนเส้นดังกล่าวเสียหายจริง ทาง อบต.ไม่สามารถซ่อมแซมได้ เนื่องจากว่า ถูกจำกัดด้วยงบประมาณ และเครื่องจักรต่างๆที่ใช้ในการซ่อมราคางบประมาณค่อนข้างสูง ซึ่งเราได้ดำเนินการของบอุดหนุนพาะกิจในปี 67 งบจะตกมาในช่วงเดือนไหน ทาง อบต.ก็จะรีบดำเนินการแก้ไขให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด ถนนคงต้องรีเซ็ทต์ขึ้นใหม่ ถ้าซ่อมคงไม่จบ ต้องรีไซกิ้งใหม่ทำใหม่ทั้งเส้น ช่วงนี้ให้ประชาชนสัญจรอย่างระมัดระวัง ไม่ได้นิ่งดูดายและเข้าใจปัญหาในตอนนี้ เราก็พยายามแก้ไขให้เท่าที่ทาง อบต.จะสามารถแก้ไขได้ ขอให้ประชาชนรออีกนิดหนึ่ง.
ภาพ-ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว