ข่าวความเชื่อ/ศรัทธาข่าวภูมิภาค

ปลุกเสกเข้มขลัง เหรียญเสาร์ 5 รับสงกรานต์ พร้อมสรงน้ำ “หลวงปู่เฮง” อบอุ่น ชาวไทย-เขมร แห่รอรับแจกเหรียญและเงินขวัญถุง – ข้าวสาร แน่นวัด

วันที่ 13 เม.ย.67 เวลา 09.09 น. ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ “เอ พุทธศิลป์” ผู้จัดสร้างวัตถุมงคล “หลวงปู่เฮง  ปภาโส เหรียญสรงน้ำ รุ่นเสาร์ 5 “ ได้ร่วมกันประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ก่อนประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเหรียญ เหรียญสรงน้ำ รุ่นเสาร์ 5  ซึ่งวันนี้ เป็นวันพิเศษ โดยเป็นวันที่หาได้ยากในรอบ 10 กว่าปีจะมีครั้ง แถมยังตรงกับวันปีใหม่ของไทยอีกด้วย โดยตรงกับวันเสาร์ ที่ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ตามปฏิทินไทย (ไม่ใช่วันเสาร์ที่ 5 ) นั่นเอง

คนไทยสมัยโบราณเชื่อว่า “วันเสาร์ 5” หรือ “เสาร์ 5” เป็นวันฤกษ์แรงที่เหมาะสำหรับการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เพราะมีความเชื่อด้านโหราศาสตร์ที่ผสมผสานกับไสยเวทว่า ดาวเสาร์เป็นดาวแห่งพลังที่มีความเข้มแข็งมาก  บรรดาเกจิอาจารย์มักจะนิยมทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลในวันเสาร์ห้า หรือเสาร์ที่ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 โดยเชื่อว่าจะมีฤทธิ์แรง ให้พุทธคุณด้านความขลัง ความคงกระพัน และแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงนั่นเอง จึงเชื่อกันว่า เป็นวันแรงด้านฤกษ์พิธีกรรม ยิ่งทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลังเป็นอย่างมาก

โดยในพิธี มีพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะ จ.สุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำโดยหลวงปู่เฮง ปภาโส เกจิดังอีสานใต้ เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก นั่งปรกอธิษฐานจิตเพื่อปลุกเสกเหรียญรุ่นดังกล่าว ร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ อีกกว่า 12 รูป อย่างเข้มขลัง ทั้งนี้เพื่อหารายได้สมทุบทุนสร้างมลฑลรูปเหมือน หลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และบูรณะปฏิสังขรณ์ทางพระพุทธศาสนาของวัด

หลังจบพิธีปลุกเสก ได้มีพิธีสรงน้ำหลวงปู่เฮง ปภาโส เนื่องในวันสงกรานต์โดยมีนายสุทธิโรจน์  เจริญธนะศักดิ์ นาย อ.กาบเชิง พร้อมด้วย พ.ต.อ.คำพล โนนุช ผกก.สภ.กาบเชิง นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พุทธศาสนิกชน ร่วมสรงน้ำหลวงปู่เฮง ปภาโส ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่ง

จากนั้น“เอ พุทธศิลป์” ผู้จัดสร้างวัตถุมงคล ได้แจกข้าวสารจำนวน 10 ตัน บรรจุถุงละ 5 ก.ก. จำนวน 2 พันถุง ให้กับประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่มาร่วมพิธีกว่า 3 พันคน พร้อมทั้งไข่ไก่ แพ็ค 10 ฟอง จำนวน 2,000 แพ็ค เงินขวัญถุงอีกคนละ 100 บาท รวม 2 แสนบาท และวัตถุมงคลเหรียญสรงน้ำ รุ่นเสาร์ 5 อีกคนละ 1 เหรียญ จำนวน 4,000 องค์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทย ในวันเทศกาลวันสงกรานต์อีกด้วย โดยมีพุทธศาสนิกชนและประชาชนมาเข้าแถวรอรับแจกสิ่งของและเหรียญทั้งชาวไทยและกัมพูชากว่า 3 พันคน ท่ามกลางแดดและอากาศที่ร้อนจัด  นอกจากนี้ยังร่วมถวายปัจจัย 5 แสนบาท ร่วมบูรณะหลังคาโบสถ์ รวมทั้ง ถวายเหรียญรุ่นดังกล่าว จำนวน 300 เหรียญ ให้กับวัด มูลค่า 150,000 บาท ให้ประชาชนได้เช่าบูชาได้ที่วัดอีกด้วย

สำหรับเหรียญวัตถุมงคล รุ่นเหรียญสรงน้ำ รุ่นเสาร์ 5 เนื้อเหรียญมีหลากหลายแบบให้เช่าบูชา จัดสร้างโดย “เอ พุทธสิลป์”  ยังได้รับการการันตีพระแท้ตลอดชีพ จากพีเอสจีเอ ออเธนทิเคชั่น บริษัทรับตรวจสอบ ออกบัตรรับรอง การันตีความแท้อย่างเป็นทางการ ในเครือสถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย ACI Certified Institute  อีกด้วย  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการยกระดับการสะสมของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับของคนไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก โดยป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังของประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “ประชาสัมพันธ์ข่าวสารงานบุญ-เอ พุทธศิลป์ ถุงเงิน”

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 97 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ

จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *