ข่าวทั่วไปข่าวอุบัติเหตุ

รองผู้ว่า 2 ประเทศ จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา รุดเยี่ยมปลอบขวัญผู้ประสบภัยไฟไหม้ พร้อมมอบถุงยังชีพชาวตลาดช่องจอม 320 ร้านค้า

วันที่ 28 พ.ย.66 เวลา 13.00 น.ที่กองอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดช่องจอมโดย อ.กาบเชิง และ อบต.ด่าน ตั้งอยู่ใต้ถุนอาคารโอท็อป อบจ.สุรินทร์ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายสันทัด แสนทอง รอง ผวจ.สุรินทร์,นายประภาส ศรีจันทร์เวียง ปลัด จ.สุรินทร์,นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นาย อ.กาบเชิง, ปลัด อ.กาบเชิง พร้อมด้วย นายกกิ่งกาชาด,ปภ.สุรินทร์,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สรีเสริม ผกก.สภ.กาบเชิง,รอง ผกก.สภ.กาบเชิง,นายก อบต.ด่าน,ปลัด อบต.ด่าน, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังสุรนารี,ทหารพราน,จนท.ตม.สุรินทร์,หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งนายฮุน โซเพี๊ย รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยประธานช่องโอร์เสม็ด,หน.หน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ประเทศกัมพูชา และหน่วยงานในพื้นที่โอร์เสม็ด ฝั่งกัมพูชา ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประกอบการชาวกัมพูชาและชาวไทยบางส่วน รวมกว่า 300 คน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นการปลอบขวัญให้กำลังใจ หลังร้านค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายจำนวน 320 ร้านค้า โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของคืนที่ผ่านมา (27 ต.ค.65) โดยมี พ.ต.ท.สมบูรณ์ พรมบุตร เป็นพนักงานสอบสวนเวร ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ กองอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดช่องจอมโดย อ.กาบเชิง และ อบต.ด่าน ได้เปิดให้ผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา เข้ามาลงทะเบียนผู้ประสบภัย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาตามกรอบกฏหมาย และเพื่อเช็คยอดร้านค้าและสินค้าที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งพบว่ามีร้านค้าได้รับความเสียหายถึง 320 ร้านค้า คาดการณ์ความเสียหายในเบื้องต้นร่วมร้อยล้านบาท และสรุปผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นลม จำนวน 5 คน ล้างแผล 10 คน ข้อเคล็ดขาแพลง 1 คน ให้อ็อกซิเจนนักดับเพลิง 6 คน นอกจากนี้ ยังมีทีมเยียวยาจิตใจ จาก MCATT จาก รพ.กาบเชิง และ สนง.สาธารณสุขสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ปฐมพยาบาลทางจิตใจในเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่จุดไฟไหม้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะบริเวณซอย 9 เพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด หาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ พร้อมทั้งปิดป้ายข้อความห้ามเข้า มีข้อความระบุว่า”พื้นที่เพลิงไหม้ ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522”อีกด้วย ทั้งนี้มีรายงานว่า ระหว่างเกิดเหตุ ชาวกัมพูชาได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ก่อนจะมีไฟลุกไหม้ดังกล่าว คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

นายสันทัด แสนทอง รอง ผวจ.สุรินทร์ กล่าวว่า นายพิจิตร บุญทัน ผวจ.สุรินทร์ ได้มอบหมายให้ตนเอง มาสำรวจที่เกิดเหตุและประมาณค่าความเสียหาย รวมทั้งเมื่อวาน นายอำเภอกาบเชิง เป็นผู้บัญชาสการเหตุการณ์ได้ระดมรถน้ำดับเพลิง จากส่วนราชการต่างๆเข้ามาช่วยระงับเหตุ กว่า 50 หน่วยงานทั้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์และศรีสะเกษ ให้เข้ามาช่วยเหลือรวมทั้งรถกู้ภัยต่างๆ ขณะนี้เพลิงได้สงบแล้ว อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกหิดขึ้นทั้งหมดเพื่อประมวลรวม นำเข้าที่ประชุม กชพอ.เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายที่ เกี่ยวข้องต่อไป พื้นที่ร้านค้าที่เสียหาย 10 ล็อค 320 ห้อง เสียหายทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอัคคีภัยในครั้งนี้

นายฮุน โซเพี๊ย รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ชาวกัมพูชาที่มาค้าขายที่ตลาดช่องจอมแห่งนี้ ซึ่งทางการกัมพูชาก็จะช่วยเหลือตามระเบียบที่ทางการกัมพูชามีและช่วยได้เท่าที่ทำได้ และก็จะมีการประสานงานความช่วยเหลือกับทั้ง 2 ประเทศต่อไป ตนขอให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกท่าน นอง ผวจ.อุดรมีชัย กล่าว

ด้าน นายนพรัตน์ ศรีพรม เจ้าของร้านสกีนส์เสื้อที่ถูกเพลิงไหม้ กล่าวว่า ร้านของตนเป็นร้านสกรีนส์เสื้อ มีเสื้อประมาณ 1 หมื่นตัวไหม้หมดทั้งร้าน ขนออกไม่ทัน เพราะมืด ประตูก็เปิดไม่ได้ เพราะลูกกุญแจอยู่กับลูกน้อง เหตุการณ์ฉุกละหุกเกิดขึ้นเร็วมาก มูลค่าความเสียหายทั้งร้านน่าจะเกือบ 2 ล้านบาท ก็ฝากถึงวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเยียวยาผู้ประสบภัยด้วย

สำหรับตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้วอดทั้งตลาดมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2553 ผ่านมา 13 ปีแล้ว ร้านค้าหลายร้อยร้านค้าเสียหายเป็นตอตะโก ต้นเพลิงเกิดจากถังแก๊สลุกลามภายในร้านดับไม่ทัน และรถดับเพลิงเข้าไปฉีดสกัดในซอยไม่ได้เนื่องจากมีการต่อหลังคาบังแดดเชื่อมโยงกัน ทางเข้าจึงแคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ รวมทั้งเป็นสินค้าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และเกิดความเสียหายกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างมากกว่าในครั้งนี้ แต่กลับพบว่ามูลค่าความเสียหายในครั้งนี้มีมากกว่า เนื่องจากมีการสต็อกสินค้าไว้ขายในช่วงออกพรรษา หน้าหนาว และปีใหม่ที่จะถึงนี้จำนวนมากดังกล่าว

ทั้งนี้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมปัจจุบัน อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ โดยการสร้างอาคารถาวรที่มั่นคงปลอดภัย และอยู่ระหว่างกำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้มีการให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขยับย้ายร้านไปด้านหลังทางทิศเหนือของตลาดเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ขณะที่ชาวกัมพูชา ที่กำลังนั่งเย็บผ้าม่านอยู่ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุพบว่าหลอดไฟติดๆดับๆก่อนจะมีเพลิงไหม้มาจากบริเวณซอย 9 ของตลาด.

ภาพ-ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *