ข่าวทั่วไป

ลำน้ำชีวิกฤติหนัก ระดับน้ำสูงทะลักเข้าท่วมชาวบ้านรีบขนหมูหนีน้ำไปขายขาดทุน เมรุวัดหยุดบริการชั่วคราว

วันที่ (5ต.ค.66) ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำที่ไหลมาจาก อ.หนองบัวแดง ไหลผ่าน อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า เข้าสู่พื้นที่ เขต อ.เมืองชัยภูมิ ที่ไหลทะลักพนังกั้นลำชีพัง มีมวลน้ำมหาศาลได้ไหลล้นตลิ่งแม่น้ำชีพื้นที่ลุ่ม ไร่นาบ้านเรือนประชาชน ที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำชี ตั้งแต่พื้นที่ ต.ทุ่งทอง ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า บ้านท่าศาลา ต.ละหาน อ.จัตุรัส ต่อมาไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่บ้านคลองโลโพ ถนนริมแม่น้ำชีสาย บ้านหางเรียง-วังก้านเหลือง เชื่อมต่ออ.บ้านเว้า-อ.เมือง  น้ำท่วมถนนพื้นที่ลุ่มเป็นช่วง ทำถนนพังหลายจุด  รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ มวลน้ำมหาศาลได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าว ใน ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิเป็นบริเวณกว้างมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่นาข้าว ในพื้นที่ ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า และ ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 10,000 ไร่

ซึ่งหนักสุดในขณะนี้คือที่บ้านเสี้ยวน้อยตำบลบ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ มีพนังกั้นน้ำชีแตกพังและล้นทะลักเนื่องจาก มีวัชพืชที่ติดเกาะตามเศษไม้ลำต้นไผ่ เต็มตลอดในลำชียาวกว่า10กม.ที่บ้านวังกุ่ม ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำไม่สามารถไหลได้สะดวกสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกหลายจุด ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่บ้านเสี้ยวน้อย วัดบ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ มีบ้านเรือนของราษฎรในหมู่บ้านเสี้ยวน้อยที่มีอยู่กว่า 140 หลังคาเรือน จากเมื่อวันที่ผ่านมา(3)ถูกปล่อยเกาะเพียง 30 หลัง ในวันที่(4-5)มวลน้ำมหาศาลไหลท่วมพื้นที่ทั้งหมู่บ้านระดับสูงกว่า 1 เมตร ในที่ลุ่มเกือบ 2 เมตร ทำให้ทั้งหมู่บ้าน 140 หลังคาเรือน รวมทั้งวัดถูกปล่อยเกาะ บ้านชั้นเดียวไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ ต้องอพยพมาสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราว อยู่บนถนนสูง ส่วนบ้าน 2 ชั้น ต้องพักอาศัยอยู่ชั้นบนตัวบ้านเท่านั้น สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนแล้วอย่างมาก มวลน้ำท่วมถนนเส้นทางเข้าวัดกว่า 1 เมตร รถทุกชนิดเข้าออกไม่ได้ วัดบ้านเสี้ยวน้อยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ได้มีการตั้งเต้นอำนวยการคอยช่วยเหลือราษฎรที่ถูกน้ำท่วมอยู่บริเวณถนนปากทางเข้าหมู่บ้านเสี้ยวน้อย เป็นวันที่ 3 แล้วระดับน้ำก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะลดลง

ชาวบ้านต้องหุงข้าว ประกอบอาหารไปถวายพระ สามเณรภายในวัด ได้มีภัตราหารฉัตรเช้า และภัตราหารเพล ในขณะที่ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเลี้ยงหมู มวลน้ำจำนวนมากได้ไหลเข้าท่วมคอกหมู เจ้าของได้ขอแรงเพื่อนบ้านใกล้เคียง ให้มาช่วยรีบขนย้ายหมูที่เลี้ยงไว้กว่า 20 ตัว หนีน้ำออกจากคอก นำไปเลี้ยงที่อื่นที่น้ำท่วมไม่ถึงอย่างทุลักทุเล และที่คอกเลี้ยงหมูที่สูงค่อนข้างมีน้อยมีจำกัดพื้นที่ และหมูบางส่วนจำเป็นต้องยอมขายขาดทุน ดีกว่าปล่อยให้หมูในคอกจมน้ำตาย

 จากการสอบถาม นางสายฝน กาบบัวแดง อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 8 บ้านเสี้ยวน้อย ต บ้านค่าย อ เมือง จ ชัยภูมิ เจ้าของหมู เล่าให้ฟังว่า ตนเลี้ยงหมูกว่า 20 ตัว ในช่วงเวลาประมาณ 03.00น คืนที่ผ่ามา ได้มีมวลน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำชี ได้ไหลกำลังแรงซัดเข้ามายังคอกหมูของตน ตนกลัวน้ำจะมากไปกว่านี้ เลยตัดสินใจ ย้ายหมูของตนออกจากพื้นที่เป็นการด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้ คอกหมูของตนจมน้ำแน่ๆ และแถมตนไม่รู้ตะเอาหมูที่ตนเลี้ยงไปเก็บไว้ที่ไหนหมด หมูบางส่วนกว่า 10 ตัว จึงยอมขายหมูขาดทุนออกไป ดีกว่าปล่อยให้หมู่ที่เลี้ยงไว้จมน้ำตาย

 ซึ่งกระแสน้ำจากแม่น้ำชีที่ทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ขณะนี้ ยังไหลแรงสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่รอบบ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำกันเซาะหายไปกับสายน้ำ และถนนในตำบลบ้านค่ายอีกหลายสายถูกน้ำซัดพังเสียหายอีกหลายจุด อยู่ระหว่างระดมกำลังเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ไปช่วยกั้นไม่ให้กระแสน้ำซัดพังเสียหายไปมากกว่านี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่ากระแสลำแม่น้ำชีไหลหลากครั้งนี้ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มในพื้นที่ ภายในช่วงสัปดาห์หน้าก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ แต่ถ้าหากเกิดฝนตกหนัก เพิ่มปริมาณน้ำในแม่ชีไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ จะส่งผลให้เกิดน้ำหลากไหลเข้าท่วมตัวเมืองย่านเศรษฐกิจ ซ้ำรอยเป็นปีที่ 3 ติดกันที่ท่วมหนักในรอบ 50 ปี ในปี 2564 ส่วนความเสียหายเบื้องต้นมีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมแล้วนับหลายหมื่นไร่ ชาวบ้านเดือดร้อนอีกนับพันครอบครัว ในรอยต่อ 4 อำเภอ พบตลิ่งแม่น้ำแม่น้ำชีไหลผ่านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายจำนวนมาก มวลน้ำได้ไหลทะลักพัดผนังกั้นน้ำริมตลิ่งแตกพังเสียหายอีกหลายยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดอยู่ระหว่างเร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือทั้งหมดโดยเร็วต่อไป

ภาพ/ข่าว มัฆวาน  วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคชัยภูมิ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *