Uncategorized

เตือนภัย..สองผัวเมีย ชาวศีขรภูมิ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี อ้างตรวจสอบหนี้บัตรเครดิต

วันที่ 27 เม.ย.2566 เวลา 10.00 น. น.ส.ขนิษฐา อายุ 26 ปี เป็นชาวอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยสามี คือนายวุฒิชัย อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิทวัฒน์ แก้วเหลา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ศีขรภูมิ ว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 เวลาประมาณ 10.53 น. ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยบอกว่าตนเองติดบัตรเครดิตค้างจำนวน 3 งวด ทั้งที่ตนเองบอกว่าตนเองไม่เคยได้ใช้บัตรไม่รู้เรื่องเลย จากนั้นผู้หญิงในสาย ก็ตอบกลับมาว่า ถ้าไม่รู้เรื่อง จะให้ต่อสายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับบอกให้ตนเองไปยกเลิกกับบัตรเครดิตตัวนี้ แล้วตำรวจก็จะไม่ต้องส่งหมายมาหาตนที่บ้าน

จากนั้นก็มีผู้ชาย ได้ใช้โปรแกรมไลน์ ซึ่งมีภาพโปรไฟล์เป็นภาพโลโก้ ซึ่งระบุว่า”สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์” วีดีโอคอลมาให้เห็น ซึ่งเขาใส่ชุดตำรวจ แล้วเขาก็ปิดกล้องไป โดยที่เขายังบอกอีกว่าชื่อของหนูพัวพันกับคนค้ายาเสพติด ชื่อสมพร แล้วยังบอกว่าตนมีส่วนแบ่งกับเขา แล้วเขาก็เปิดหน้าคนนั้นให้ดู ตนบอกว่า ตนไม่รู้จักคนพวกนี้เลย เขาก็ส่งภาพบัตรหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ จนท.ตำรวจต่างๆ เพื่อให้มีความเชื่อถือ ว่าเป็นทีมงานตำรวจจริง จากนั้นเขาเลยให้ตนโอนเงินไปให้ในบัญชีของเขาพร้อมกับจะตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ว่าตนเองไม่ได้มีส่วนแบ่งกับนางสมพร แล้วยังสอบถามว่าตนเองมีกี่บัญชี ตนจึงบอกเขาไปหมด

เขายังบอกอีกว่าให้ตนคุยเพียงคนเดียว อย่ามีเสียงใครแทรกเข้ามา เพราะเขากำลังจะบันทึกเสียงบอกให้ตนพูดให้หมด ว่าไม่เกี่ยวข้อง และเขาก็ถามว่าตนมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ตนก็เลยบอกไปว่าตนมีบ้านมีรถ แล้วเขาก็ยังถามอีกว่า ให้บอกหมายเลขบัญชี 4 ตัวหลังทั้งหมด และลองโอนเงินผ่านเข้าบัญชีเขาดู เพื่อเช็คดู เพราะเขาบอกว่าเขาเป็นตำรวจ ปปง.อะไรทำนองนี้ จะส่งหมายศาลมา หนูก็บอกว่าหนูไม่กลัว ถ้างั้นก็โอนเงินมาผ่านบัญชี ตนก็ย้ำว่าพี่ถ้าเป็น สภ.บุรีรัมย์ ทำไมมันไม่ขึ้น เขาก็เลยบอกว่าอันนี้มันเป็นบัญชีกองกลาง ตนก็เลยโอนไปดู โดยเขาบอกว่าเขาจะโอนคืนภายใน 15 นาที เขาจะโอนให้คืนและเช็คดูบัญชีเราว่าจะไม่พัวพันกับผู้หญิงคนนั้นจริงหรือไม่ ตนก็เลยโอนไป เขาบอกว่าเป็นความลับมาก ตนก็เลยไปเชื่อเขาหมด เลยโอนไป 54,000 บาท พอโทรศัพท์ติดต่อไป ก็ปิดโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งเรื่องทั้งหมดน่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงทางโลกออนไลน์ ตนจึงขอเตือนพี่น้องประชาชนทุกคน ให้ระมัดระวังกับแก๊งค์พวกนี้ด้วย และอย่าตกเป็นเหยื่อกับคนพวกนี้อย่างครอบครัวตนเองอีก

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบชื่อนามสกุล หมายเลขบัญชีปลายทาง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

นพรัตน์ กิ่งแก้ว รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *