ข่าวทั่วไปข่าวอาชญากรรม

ชาวบ้านผวา..หนุ่มป่วยจิตฯ บุกขืนใจไม่เลือกหน้า ขโมยของทุกอย่างที่หยิบจับได้

วันที่ 25 เม.ย.66 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ โดยขณะนี้ชาวบ้านต่างพากันรู้สึกหวาดผวา กรณีที่ หนุ่มป่วยจิตฯ อายุ 25 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว ได้ไปก่อเหตุทั้งพยายามที่จะข่มขืนชาวบ้าน และเข้าไปขโมยสิ่งของทุกอย่าง ที่สามารถจะขโมยได้ ซึ่งทำให้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านอยู่กันอย่างไม่เป็นสุข ต้องหวาดระแวง

โดยชาวบ้านทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หวาดระแวงมาก ไม่กล้าไปไหน เพราะกลัวของจะหาย แล้วก็ไม่กล้าอยู่คนเดียว เพราะกลัวบุคคลคนนี้จะเข้ามาข่มขืน หรือกระทำมิดีมิร้าย และเป็นบุคลคลเดียวกันกับที่ฉุดแม่บ้านในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ไปทำมิดีมิร้าย โดยดึงเข้าไปในห้องน้ำ หวังข่มขืน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา และเป็นข่าวดังมาแล้ว ณ ตอนนี้บุคคลดังกล่าวได้ออกมาอาละวาดทั่วทั้งหมู่บ้านอีก จึงขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำอย่างไรก็ได้ให้บุคคลนี้ได้ออกไปจากหมู่บ้าน หรือนำตัวไปบำบัด เพราะว่าบุคคลดังกล่าวติดดมกาวด้วย

ทางด้านคุณยาย อายุ 76 ปี เดินไม่ได้และถูกหนุ่มดังกล่าวข่มขืนแล้ว เล่าว่า ตอนแรกเขาเข้ามาหวังจะข่มขืนเราประมาณเที่ยงคืน แล้วก็ไปโรงพัก แต่ก็ไม่ได้เรื่องเลย แล้วเขาก็มาขโมยของ มีทั้งสังกะสี โทรศัพท์ และที่นอน เอาไปหมดเลย ตอนนี้อยู่อย่างหวาดกลัว เพราะว่ายายก็อยู่คนเดียว ลูกหลานก็ไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็มีแต่เรียกเพื่อนบ้านช่วย

สำหรับบุคคลที่ก่อเหตุ อายุ 26 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวช อาศัยอยู่กับพ่อที่ต้องออกไปรับจ้างทำงาน ปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่บ้านลำพัง ชอบดมกาวและก่อเรื่องในหมู่บ้านเป็นประจำ โดยชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนจนสำเร็จความใคร่มีจำนวน 4 คน และที่กำลังจะถูกข่มขืนแล้วเอาตัวรอดออกมาได้อีกหลายราย ชาวบ้านต่างก็หวาดผวา เคยก่อเหตุแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เขาเป็นผู้ป่วยจิตเวช ถ้าเป็นแบบนี้ชาวบ้านก็จะอยู่แบบหวาดผวาหวาดระแวงไปตลอด แบบนี้ไม่รู้จะทำยังไง จึงได้เข้ามาร้องเรียน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาช่วยเหลือ หรือแก้ไขให้กับชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านทุกคนทนทุกข์มากกว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของชายดังกล่าว แต่ไม่พบ มีแต่บ้านที่ว่างเปล่า จึงได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ได้ตอบว่า หนุ่มดังกล่าว ได้ออกไปทำงาน แต่ไม่นานก็จะกลับมาก่อเหตุแบบนี้อีก.

นพรัตน์ กิ่งแก้ว รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *