โรงเรียนบ้านจรัส เด็กๆนักเรียนแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ต่างตื่นตัวในการซ้อมเข้าหลุมหลบภัย หลังส่อจะเกิดปะทะกัน
วันที่ 6 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาเรื่องเขตพื้นที่ทับซ้อนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสามประเทศ และปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่ในช่องเขาตาเมือน (หรือช่องเขาตาเมียง) เทือกเขาพนมดงรัก ในเขตบ้านหนองคันนาสามัคคี หมู่ 8 ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
ตามกระแสข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนในเขต อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งมีแนวเขตติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งเกรงว่าหากเกิดการปะทะขึ้นในครั้งนี้อาจจะรุนแรง

ประชาชนที่มีแนวเขตชายแดนฝั่ง อ.บัวเชด ชาวบ้านยังใช้ชีวิตกันตามปกติรวมถึงโรงเรียนก็ยังเปิดการเรียนการสอนเหมือนเดิม แต่ได้มีการปรับปรุงหลุมหลบภัยในโรงเรียน และให้นักเรียนมาซ้อมอพยพแล้ว
นายสานิตย์ หาชา ผอ.โรงเรียนบ้านจรัส ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ กล่าวว่าตอนนี้โรงเรียนได้มีมาตรการ คือการเฝ้าระวังตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัสสุรินทร์ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสาร ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนเผยแพร่ และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการ

.
ในการจัดการทำแผนเผชิญเหตุมาตรการความปลอดภัยของสถานศึกษา ได้ให้นักเรียนได้ซักซ้อมการอพยพและมีการซักซ้อมแผนมาเป็นระยะ
ในช่วงนี้ผู้ปกครองนักเรียนได้สอบถามมายังโรงเรียนเป็นระยะถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งเราได้มีการประสานกันกับผู้นำชุมชนผู้ปกครองกันไว้แล้ว เพื่อให้เกิดความพร้อมหากมีเหตุ ตอนนี้ได้มีการเชื่อมโยงกันทางโซเชียลกับชุมชนถึงหัวหน้าส่วนราชการรวมถึงผู้ปกครองเด็ก ให้ศึกษาเส้นทางการอพยพล่วงหน้ายอมรับว่าน่ากลัวเพราะอาวุธปัจจุบันทันสมัยมากขึ้น

มีการวางแผนชัดเจนว่าแต่ละหมู่บ้านจะต้องวิ่งเส้นทางอพยพไปทางไหน เป้าหมายอยู่ที่ไหน เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนหรือไปกระจุกรวมกันเกินไปส่วนความตื่นตระหนกของชาวบ้านในตอนนี้ไม่ค่อยตื่นตระหนกมากนัก เพราะมีระบบโซเชียลคอยประสานกันตลอดเวลา
ขณะที่ผู้ปกครองเด็กชาวบ้านในพื้นที่ยอมรับว่ามีความวิตกกังวล หากเกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กเปิดเทอมด้วย

โรงเรียนบ้านจรัส ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
การฝึกซ้อมดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังวินัย ความเข้าใจ และการมีสติในภาวะวิกฤติ โดยมีการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน การแยกจุดรวมพล การใช้หลุมหลบภัย และเส้นทางอพยพที่ถูกวางแผนมาอย่างรอบคอบ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ร่วมลงพื้นที่อย่างแข็งขัน ทั้งในด้านการให้ความรู้ การอำนวยความสะดวก และการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความเข้มแข็งในการปกป้องเยาวชนไทยและประชาชนในพื้นที่แนวหน้า

แม้โรงเรียนบ้านจรัสจะเป็นเพียงโรงเรียนเล็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกล แต่จิตใจของเด็ก ๆ และครูผู้เสียสละนั้นยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าภูเขา ส่งแรงใจให้ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่บนแนวชายแดนทุกๆนาย เพื่อรักษาอธิปไตยชาติไทย

ภาพ / nid noonid
ข่าว / พูนสิน ยั่งยืน