เจ้าหน้าสนธิกำลัง นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมแก๊งค้ายา ยึดยาบ้าพร้อมอาวุธปืน
วันนี้ (2 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ นำหมายค้น ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ ค82/2568 โดย พ.ต.ต.สมศักดิ์ พันตาแสง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ และ ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการข่าว กอ.รมน.ภาค2 ส่วนแยก ,เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกาบเชิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.กาบเชิง ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 110 บ้านโนนสำราญ ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนางสาววิภาวรรณ สุขจิตร แสดงตัวเป็นผู้อยู่อาศัย และมีชื่อตามหมายค้นนี้

จากการตรวจค้นบริเวณบ้านเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ มิซซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บบ 5391 ศรีสะเกษ จอดอยู่ ตรวจสอบบริเวณท้ายกระบะพบกระเป๋าหิ้วสีขาว ภายในพบลำกล้องปืนสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบภายในรถพบกระเป๋าสะพายข้างสีดำ กระเป๋ามีซิบสีดำภายในพบกล่องพลาสติกแบบปิดฝา มียาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 10 เม็ด พร้อมอุปกรณ์เสพ และเงินสดที่พบในกระเป๋าเดียวกัน จำนวน 15,700 บาท ตรวจสอบภายในรถ มีบัตรประจำตัวพนักงานแขวนที่กระจกด้านหน้ารถ ระบุชื่อ นายกิฒนากร น้ำบุ่น หรือเก้า ตรวจค้นพบกระเป๋าแบบซิปสีเหลือง ตรวจดูภายในพบเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด และ ขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด รวมจำนวน 4 นัด ภายในรถยนต์ยังพบอุปกรณ์เสพจำนวนมาก

สอบถามนางสาววิภาวรรณ สุขจิตร ให้การว่ารถยนต์มิซซูบิชิที่จอดอยู่เป็นรถของนายกิฒนากร น้ำบุ่น หรือเก้า ราษฎรบ้านด่าน บ้านอยู่ในตลาดช่องจอม ใกล้กับดีดีโฮม ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลฃที่ 197 หมู่ที่ 14 ตำบลบด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ทราบชื่อคือ นายกิฒนากร หรือเก้า น้ำบุ่น ได้เข้ามาหานายพิรุธ พุธรัตน์ สามีตน และออกไปด้วยกันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามา ซึ่งยาบ้าและเครื่องกระสุนปืนในรถยนต์เป็นของนายกิฒนากร น้ำบุ่น หรือเก้า โดยนายเก้าจะเข้ามาที่บ้านตนทุกๆ 2-3 วัน และจะนำยาบ้ามาส่งให้สามีตน คือนายพิรุธ พุธรัตน์ ครั้งละ 1-2 ถุง ประมาณ 200-400 เม็ด ส่วนใหญ่แต่ละรอบจะนำมาส่งให้ครั้งละ 100-200 เม็ด โดยจะซื้อยาบ้าจากนายกิฒนากร น้ำบุ่น หรือเก้า 100 เม็ด ในราคา 3,000-3,500 บาท และนายพิรุธ พุธรัตน์ (สามี) จะนำไปแบ่งขายต่อให้กับบุคคลในหมู่บ้าน ที่มาขอซื้อในราคาเม็ดละ 100 บาท เมื่อหมดยาบ้าหมดก็จะโทรสั่งให้นายเก้า เอามาส่งให้เป็นคราวๆ ทุก 2-3 วัน

เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในบ้านพบเลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมแผ่นบังคับโซ่และโซ่ ยาว 24 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง สอบถามนางสาววิภาวรรณ สุขจิตร แจ้งว่า เลื่อยโซ่ยนต์ เป็นของ นายพิรุธ พุธรัตน์ ซื้อมาเพื่อใช้ในการตัดไม้ตนเองและรับจ้างบ้างเป็นบางครั้ง บริเวณห้องนอนห้องที่หนึ่งจากการตรวจค้นพบท่อลดเสียงสำหรับติดกับปืน จำนวน 1 อัน ตรวจค้นห้องนอนห้องที่สอง พบกระเป๋ากีต้าวางอยู่ข้างที่นอน เจ้าหน้าที่เปิดดูภายในกระเป๋าพบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก นางสาววิภาวรรณ สุขจิตร แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าปืนยาวนี้ เป็นของนายมานพ หรือยุ่ง กองทรัพย์ ราษฎรบ้านด่าน ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยได้นำเก็บไว้ที่บ้านได้ 2 วันแล้ว โดยนายมานพ กองทรัพย์ ได้นำปืนยาวไทยประดิษฐ์มาไว้ที่บ้านตนและชวนนายพิรุธ พุธรัตน์ (สามี) ไปยิงนกด้วยกัน

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณภายในห้องครัวในบ้านพบยาบ้า (เมตแอมเฟตามีน) จำนวน 28 เม็ด ในห่อกระดาษทิชชูเปียกอยู่ภายในกระเป๋าผ้าสีขาว ซุกซ่อนอยู่ในชั้นเก็บของข้างประตู นางสาววิภาวรรณ สุขจิตร ยอมรับว่ายาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 28 เม็ด เป็นของตนเอง ได้แบ่งมาจากนายพิรุธ พุธรัตน์ (สามี) วันนี้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น ในช่วงที่สามีไม่อยู่หากมีคนมาถามซื้อก็จะขายให้ในราคาเม็ดละ 100 บาท นางสาววิภาวรรณ สุขจิตร รับว่าตนได้เสพยาบ้า จำนวน 2 เม็ด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น จึงได้ทำบันทึกยินยอมด้วยความสมัครใจให้ตรวจปัสสาวะ และทำการตรวจปัสสาวะ ผลการทดสอบเบื้องต้น พบสารเสพติด

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้นางสาววิภาวรรณ สุขจิตร ทราบว่า ได้ถูกจับกุมแล้วในข้อกล่าวหาว่า ได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ฐาน จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนไฮโรคลอไรด์)โดยฝ่าฝืนกฎหมาย , มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฐาน มีอาวุธปืน (อาวุธปืนไทยประดิษฐ์)พร้อมเครื่องกระสุนปืนและท่อลดเสียง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และ มีความผิดตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 ฐาน เลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนมอบ ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์
